วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558

ข้อควรรู้ก่อนเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน



ข้อควรรู้! 
ก่อนออกเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน


     ตอนนี้ก็ใกล้เข้าสู่เวลาแห่งการเปิดประชาคมอาเซียนเข้ามาแล้ว และโอกาสที่เราจะสามารถไปท่องเที่ยวยังประเทศต่างๆในอาเซียนย่อมสะดวกมากขึ้น แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวยังประเทศต่างๆ เราควรที่จะทำความรู้จักและเรียนรู้ถึงข้อห้าม หรือการปฏิบัติตนที่ย่อมแตกต่างกันไปของแต่ละชาติก่อน เพื่อที่เราจะสามารถไปท่องเที่ยวและปฏิบัติตนได้อย่างสบายใจ


ประเทศเวียดนาม (Vietnam)
  1. หน่วยงานราชการ สำนักงาน และองค์กรให้บริการสาธารณสุข เปิดทำการระหว่างเวลา 08.00 น. ถึง 16.30 น. ตั้งแต่วันจันทร์ ศุกร์
  2. ผู้ถือพาสปอร์ตไทย สามารถเดินทางเข้าเวียดนามโดยได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และพำนักอยู่ในเวียดนามได้ไม่เกิน 30 วัน
  3. ชาวต่างชาติที่อยู่ในเวียดนาม ต้องพกพาสปอร์ตติดตัวตลอดเวลา และนักท่องเที่ยวควรถ่ายเอกสารหนังสือเดินทาง บัตรเครดิต และเอกสารสำคัญอื่นๆ ด้วย เพราะทางโรงแรมอาจขอสำเนาเอกสารเหล่านี้
  4. ทางประเทศเวียดนามไม่อนุญาตให้ทำการบันทึกภาพอาคารที่ทำการต่างๆ ของรัฐ
  5. หากนำเงินตราต่างประเทศติดตัวเข้ามามากกว่า 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องแจ้งให้ศุลกากรเวียดนามทราบ และการนำเงินตราออกประเทศมากกว่า 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งชาติหรือธนาคารกลางในท้องถิ่นก่อน มิเช่นนั้นจะถูกยึดเงิน
  6. บทลงโทษของเวียดนามในคดียาเสพติดการฉ้อโกงหน่วยงานของรัฐมีโทษประหารชีวิต
  7. ต้องเชิญผู้ใหญ่ก่อนรับประทานอาหาร
  8. ชาวเวียดนามจะไม่ถ่ายรูป 3 คน เพราะ เชื่อว่าจะทำให้เบื่อกัน แยกกัน หรือใครคนหนึ่งจะเสียชีวิต

ประเทศสิงคโปร์ (Singapore)

  1. หน่วยราชการเปิดทำการวันจันทร์ ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น.-13.00 น. และ 14.00 น. – 16.30 น. และวันเสาร์ เปิดทำการระหว่างเวลา 08.00 น. – 13.00 น.
  2. ห้ามพกหมากฝรั่งเข้าประเทศ
  3. เวลาขึ้นบันไดเลื่อนให้ชิดซ้าย
  4. ห้ามทิ้งขยะเรี่ยราด และห้ามเก็บผลไม้ในที่สาธารณะ
  5. ผู้ถือพาสปอร์ตไทยสามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราและสามารถพำนักอยู่ได้ 14 วัน การพำนักเกินระยะเวลาที่กำหนดถือว่าผิดกฎหมายมีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน เฆี่ยน 3 ที ปรับสูงสุด 6,000 ดอลลาร์สิงคโปร์และห้ามเข้าประเทศ
  6. การหลบหนีเข้าสิงคโปร์และประกอบอาชีพเร่ขายบริการผิดกฎหมาย จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
  7. การลักลอบนำยาเสพติด อาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ จะได้รับโทษอย่างรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิต

ประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines)

  1. การเข้าไปประกอบธุรกิจในฟิลิปปินส์ในลักษณะต่างๆ เช่น การลงทุนร่วมกับฝ่ายฟิลิปปินส์ จำเป็นจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด โดยเฉพาะในด้านกฎหมาย การจดทะเบียนภาษี และปัญหาทางด้านแรงงาน เป็นต้น
  2. การเท้าเอว หมายถึง ท้าทาย แต่การเลิกคิ้ว หมายถึง ทักทาย
  3. ใช้ปากชี้สิ่งของ
  4. การทานข้าวบ้านเพื่อนสามารถห่อกลับได้ แต่ควรมีของฝากให้เขาด้วย
  5. จะตกแต่งบ้าน 2 เดือน เพื่อเป็นการต้อนรับทศกาลคริสต์มาส


ประเทศเมียนมาร์ (Myanmar)

  1. วันที่ 20 ตุลาคม 2553 รัฐบาลพม่าประกาศเปลี่ยนธงชาติและตราประจำชาติอย่างเป็นทางการ แต่ยังใช้ชื่อเดิมคือ สหภาพพม่า(the Union of Myanmar) ส่วนชื่อประเทศใหม่ตามรัฐธรรมนูญ คือสาธารณรัฐสหภาพพม่า (the Republic of the Union of Myanmar)
  2. ไม่ควรพูดคุยเรื่องการเมืองกับบุคคลที่ไม่รู้จักหรือสนิท
  3. หากไปวัด เมื่อเข้าวัดต้องถอดรองเท้าและถุงเท้า
  4. ห้ามเหยียบเงาพระสงฆ์
  5. ให้นามบัตรต้องยื่นให้สองมือ
  6. ไม่ควรใส่กระโปรงสั้น กางเกงขาสั้น ในสถานที่สาธารณะและศาสนสถาน
  7. ผู้หญิงชอบทาทะนาคา(แป้งพม่า มีสีออกเหลือง) ส่วนผู้ชายชอบเคี้ยวหมาก


ประเทศมาเลเซีย (Malaysia)

  1. มาเลเซียมีปัญหาประชากรหลากหลายเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ในมาเลเซียประกอบด้วยชาวมาเลย์ กว่าร้อยละ 40 ที่เหลืออีกกว่าร้อยละ 33 เป็นชาวจีนร้อยละ10 เป็นชาวอินเดีย และ อีกร้อยละ 10 เป็นชนพื้นเมืองบนเกาะบอร์เนียว
  2.  ใช้มือขวาเพียงข้างเดียวในการรับประทานอาหาร และรับส่งของ
  3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องต้องห้าม
  4. ห้ามสัมผัสโดนศีรษะชาวมาเลเซียเด็ดขาด เพราะถือว่าไม่สุภาพ

ประเทศลาว (Laos)


  1. การบินลาว เป็นสายการบินเดียวในประเทศ มีสนามบินทั้งหมด 52 แห่ง มีเพียง 9 แห่งที่ลาดยาง
  2. คนไทยอ่านตัวหนังสือลาวได้ไม่ยากนักเพราะ ลาวใช้ตัวอักษรคล้ายกับไทย ส่วนคนลาวอ่านหนังสือไทยได้คล่องมาก
  3. ลาวขับรถทางขวา
  4. ธนาคารไทยในลาวมี 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทยธนาคารไทยพาณิชย์  และธนาคารทหารไทย 
  5. ติดต่อราชการต้องนุ่งผ้าซิ่น
  6. เวลาเดินผ่านผู้ใหญ่ ต้องก้มหัว
  7. ถ้าเพื่อนคนลาวเชิญไปพักที่บ้าน ห้ามให้เงิน
  8. เข้าบ้านต้องถอดรองเท้า และถ้าเขาเสิร์ฟน้ำต้องดื่ม
  9. อย่าซื้อน้ำหอมให้กัน

ประเทศอินโดนีเซีย (Indonesia)

  1. ไม่ควรใช้มือซ้ายในการรับ-ส่งของ คนมุสลิมอินโดนีเซียถือว่ามือซ้ายไม่สุภาพ
  2. ไม่ควรใช้นิ้วชี้ในการชี้สิ่งของ ควรใช้นิ้วโป้งแทน
  3. นิยมใช้มือในการกินข้าว
  4. ไม่ควรจับศีรษะคนอินโดนีเซียรวมทั้งการลูบศีรษะเด็ก
  5. รถจักรยานยนต์รับจ้างมีมิเตอร์ค่าโดยสาร
  6. เวลาไปงานศพใส่ชุดสีอะไรก็ได้
  7. การครอบครองยาเสพติด อาวุธ หนังสือรูปภาพอนาจาร มีบทลงโทษหนัก อาทิ การนำเข้าและครอบครองยาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต
  8. บทลงโทษรุนแรงเกี่ยวกับการค้าและส่งออกพืชและสัตว์กว่า 200 ชนิด จึงควรตรวจสอบก่อนซื้อหรือนำพืชและสัตว์ออกนอกประเทศ
ประเทศกัมพูชา (Cambodia)

  1. ผู้ถือพาสปอร์ตไทย สามารถขอตรวจลงตราเข้ากัมพูชาได้จากสถานฑูตกัมพูชาในไทย โดยเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท หรือขอตรวจลงตรานักท่องเที่ยว หรือผู้เดินทางผ่านได้เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงพนมเปญ โดยกรอกแบบฟอร์ม Visa on Arrival พร้อมยื่นรูปถ่ายและค่าธรรมเนียม 20 ดอลลาร์สหรัฐ
  2. ผู้หญิงห้ามแต่งตัวเปิดเผย ควรแต่งกายสุภาพ หากผู้ชายไว้ผมยาวจะมีภาพลักษณ์เป็นนักเลง
  3. ผู้ที่เดินทางเข้ากัมพูชา และประสงค์จะอยู่ทำธุรกิจเป็นระยะเวลาเกิน 3 เดือน ควรฉีดยาป้องกันโรคไทฟอยด์ และไวรัสตับอักเสบเอและบี
  4. เพื่อนผู้ชายจับมือกัน ถือเป็นเรื่องปกติ
  5. การสบตามากเกินไป ถือว่าไม่ให้เกียรติ
  6. ห้ามจับศีรษะ เพราะ คนกัมพูชาถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของร่างกาย

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม (Brunei Darussalam)


  1. คนในกลุ่มประเทศอาเซียนสามารถทำวีซ่าที่ ตม.ที่ประเทศบรูไน สามารถอยู่ได้นาน 2 สัปดาห์
  2. ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลือง เพราะถือเป็นสีของพระมหากษัตริย์
  3. วันหยุดคือวันศุกร์และวันอาทิตย์ และวันศุกร์เวลา 12.00-14.00 น.ทุกร้านจะปิด
  4. การทักทายจะทำโดยการจับมือกันเบาๆ และสตรีจะไม่ยื่นมือให้บุรุษจับ
  5. สตรีเวลานั่งจะไม่ให้เท้าชี้ไปทางผู้ชายและไม่ส่งเสียงหรือหัวเราะดัง
  6. จะไม่ใช้มือซ้ายในการส่งของให้ผู้อื่น
  7. การใช้นิ้วชี้ชี้คนสิ่งของถือว่าไม่สุภาพ ให้ใช้หัวแม่มือชี้แทน


     เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว หากจะไปท่องเที่ยวที่ประเทศไหน ก็อย่าลืมข้อปฏิบัติเหล่านี้ก่อน เพื่อที่เวลาไปประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนเหล่านี้ เราจะได้ท่องเที่ยวกันอย่างถูกต้องและสนุกสนาน

ขอบคุณที่มาจาก https;//www.thai-aec.com และ http://travel.truelife.com/






วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557

มารู้จักกับ "ธนาณัติ" กันเถอะ!!



ศัพท์ทางเศรษฐกิจ

"ธนาณัติ " 


บริการไปรษณีย์ภาพใหญ่

          ธนาณัติ คืออะไร?
  ธนาณัติ ก็คือ ตราสารสั่งจ่ายเงินที่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สั่งให้ที่ทำการไปรษณีย์ปลายทางจ่ายเงินตามจำนวนที่รับฝากให้แก่ผู้รับที่มีนามระบุในตราสารนั้น ณ ที่ทำการไปรษณีย์
(ที่มา: ไปรษณียนิเทศ พ.ศ. 2544 ข้อ 167)

           บริการธนาณัติ หมายถึง?
 บริการธนาณัติ หมายถึง บริการที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด รับฝากเงินจากผู้ฝากส่งแล้วดำเนินการออกตราสารสั่งจ่ายเงินซึ่งเรียกว่าธนาณัติ หรือออกคำสั่งให้ที่ทำการไปรษณีย์ปลายทางออกตราสารสั่งจ่ายเงินดังกล่าวตามจำนวนที่รับฝากเพื่อจ่ายเงินให้แก่ผู้รับที่มีนามระบุในตราสารนั้น ณ ที่ทำการไปรษณีย์ 

ธนาณัติแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 
  1.  ธนาณัติระหว่างประเทศ
  2.  ธนาณัติในประเทศ
2.1.  ไปรษณีย์ธนาณัติธรรมดา คือ ธนาณัติที่ส่งไปให้ผู้รับโดยทางบริการไปรษณีย์ลงทะเบียน
2.2.  ไปรษณีย์ธนาณัติด่วนพิเศษ คือ ธนาณัติที่ส่งไปให้ผู้รับโดยทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ
2.3.  โทรเลขธนาณัติ คือ ธนาณัติที่ส่งไปให้ผู้รับโดยทางโทรเลข
2.4.   ธนาณัติอีเล็คทรอนิคส์ คือ ธนาณัติที่ส่งไปให้ผู้รับโดยทางอีเล็คทรอนิคส์

      

         
          การฝากส่งไปรษณีย์ธนาณัติ ทำอย่างไร?

ตัวอย่างการกรอกรายละเอียดใน ธน.1
ขั้นตอนการกรอกรายละเอียด ในใบฝากส่งธนาณัติในประเทศไทย
1. ให้ทำเครื่องหมายเลือกชนิดของธนาณัติก่อนว่า ต้องการ ธรรมดา หรือ ด่วนพิเศษ
2. เขียน วัน เดือน ปี ที่ฝากส่ง
3. ระบุจำนวนเงินที่ต้องการฝากส่ง ทั้งตัวเลขและตัวหนังสือให้ชัดเจน
4. ระบุที่ทำการไปรษณีย์ที่ต้องการให้ผู้รับไปรับเงิน พร้อมด้วยรหัสไปรษณีย์ให้ชัดเจน
5. ระบุ ชื่อ นามสกุลผู้รับเงิน ในช่อง ชื่อผู้รับเงิน ให้ชัดเจน
6. ในช่อง ที่อยู่ให้ระบุที่อยู่ของผู้ฝากส่งโดยละเอียด พร้อมด้วยรหัสไปรษณีย์
7. ในช่อง ชื่อผู้ฝากเงิน ให้ระบุชื่อผู้ฝากเงิน(เจ้าของเงิน) ให้ชัดเจน
8. ในช่อง ที่อยู่ให้ระบุที่อยู่ของผู้ฝากเงินโดยละเอียด พร้อมด้วยรหัสไปรษณีย์
9. ถ้ามีเบอร์โทรศัพท์ก็ให้ระบุไว้ด้วย
10.  ให้เซ็นชื่อ ผู้ฝากเงิน หรือผู้ฝากแทน ถ้าเป็นผู้ฝากเงินมาดำเนินการด้วยตนเองก็ให้ทำเครื่องหมายไว้ในช่องผู้ฝากเงินแล้วเซ็นชื่อผู้ฝากเงิน ถ้ามาดำเนินการแทนคนอื่น ก็ให้ทำเครื่องหมายไว้ในช่องผู้ฝากแทนแล้วเซ็นชื่อผู้ฝากแทน

ตัวอย่างธน.31 ส่วนที่ 1 และ 2
ขั้นตอนการส่ง
  เมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะเก็บ ธน.31 ส่วนที่ 3 ไว้แล้วส่งส่วนที่ 1 กับ 2 ซึ่งซ้อนติดกันอยู่ให้แก่เราเพื่อดำเนินการต่อ  เจ้าหน้าที่เขาได้พิมพ์รายละเอียดส่วนอื่น ๆ มาให้เราเรียบร้อย ยกเว้นชื่อผู้รับเงิน กับชื่อผู้ฝากเงิน  เมื่อได้รับ ธน.31 ส่วนที่ 1,2 มาแล้ว อย่าเพิ่งฉีกออกจากกันให้ซ้อนกันอยู่อย่างนั้น เพราะแบบ ธน.31 จะมีก็อปปี้ในตัว ให้กรอก ชื่อ-นามสกุล ผู้รับเงิน และกรอก ชื่อ-นามสกุล ผู้ฝากเงินลงในช่องผู้ฝากเงิน (หมายเลข 1,2 ตามภาพ)
ก่อนกรอกควรตรวจสอบรายละเอียดให้เรียบร้อย กรอกเฉพาะชื่อและนามสกุลผู้รับและผู้ฝากเท่านั้น ไม่ต้องกรอกที่อยู่ลงไป ถ้าผู้รับเป็นนิติบุคคล ให้กรอกชื่อนิติบุคคล เช่น บริษัท การงาน จำกัด ฯลฯ

ตัวอย่าง การกรอก ชื่อ-นามสกุล ผู้รับ ผู้ฝาก
 เมื่อกรอกเสร็จแล้วตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นดึงส่วนที่ 2 ออกมาจากส่วนที่ 1
นำ ธน. 31 ส่วนที่ 1 บรรจุในซองที่ตรียมไว้แล้วปิดผนึกซองให้เรียบร้อย หากใครไม่ได้เตรียมซองมา สามารถซื้อได้ที่ไปรษณีย์ (ที่หน้าซองต้องจ่าหน้าชื่อและที่อยู่ผู้รับและผู้ฝากไว้ให้ละเอียดด้วย) ส่วน ธน.31 ส่วที่ 2 ให้เราเก็บไว้เป็นหลักฐาน แล้วคืนซองที่บรรจุ ธน.31 ท่อน 1 ให้กับเจ้าหน้าที่ ก็เป็นจบขั้นตอนการฝากส่งธนาณัติ

ตัวอย่างซองบรรจุธนาณัติธรรมดา

ตัวอย่างซองบรรจุธนาณัต ด่วนพิเศษ (EMS)

        
         ธนาณัติออนไลน์ คือ?

  ธนาณัติออนไลน์ คือ บริการฝากส่งเงินด่วนพิเศษถึงผู้รับปลายทางภายในประเทศโดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว ผู้รับและผู้ส่งเงินไม่ต้องมีบัญชีเงินฝาก เพียงใช้บัตรประจำตัวประชาชนก็สามารถส่งและรับเงินได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศภายในเวลา 15 นาที และยังสามารถฝากส่งข้อความให้แก่ผู้รับเงินได้ด้วยไม่เกิน 100 ตัวอักษร (รวมเว้นวรรค)
เงื่อนไข
ฝากสูงสุดได้ไม่เกิน 50,000 บาท / ฉบับ และฝากส่งถึงผู้รับรายเดียวกันได้ไม่เกิน 100,000 บาท / วัน
สถานที่จัดจำหน่าย
ที่ทำการไปรษณีย์และร้านไปรษณีย์ทั่วประเทศ
อัตราค่าบริการ
ไม่เกิน 10,000 บาท คิดค่าบริการ(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 50 บาท
เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000 บาท คิดค่าบริการ(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 60 บาท
เกิน 20,000 บาท แต่ไม่เกิน 30,000 บาท คิดค่าบริการ(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 70 บาท
เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 40,000 บาท คิดค่าบริการ(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 80 บาท
เกิน 40,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท คิดค่าบริการ(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 90 บาท
ค่าฝากส่งข้อความถึงผู้รับ 10 บาท / ฉบับ (ไม่เกิน 100 ตัวอักษร)
สถานะ มิ.ย. 2555


          การส่งธนาณัติออนไลน์  ทำอย่างไร?


ขั้นตอนการกรอกใบฝากส่งเงินธนาณัติออนไลน์
1. กรอกวัน เดือน ปี ที่ฝากส่ง ในช่องหมายเลข 1
2. กรอกจำนวนเงินที่ฝากส่งเป็นตัวอักษร ในช่องหมายเลข 2
3. กรอกจำนวนเงินเป็นตัวเลข ในช่องหมายเลข 3
4. กรอกชื่อไปรษณีย์ปลายทาง ที่ผู้รับสะดวกไปรับเงิน  ในช่องหมายเลข 4
5. กรอกรหัสไปรษณีย์ปลายทาง 5 หลัก บริเวณหมายเลข 5
6. กรอก ชื่อ - นามสกุล ผู้รับเงินให้ชัดเจน ในช่องหมายเลข 6
7. ถ้าต้องการส่งข้อความไปด้วยก็ให้กรอกข้อความที่จะส่งในช่องหมายเลข 7 นี้ แต่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มนะครับ ถ้าไม่ต้องการส่งก็เว้นไว้
8. กรอก ชื่อ - นามสกุล ผู้ฝากเงินให้ชัดเจน ในช่องหมายเลข 8
9. กรอกหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ฝากส่ง ในบริเวณหมายเลข 9
10. ถ้าต้องการให้แจ้งผู้รับทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ ก็ให้ทำเครื่องหมายในรูปวงกลมหมายเลข 10 แล้วกรอกที่อยู่ผู้รับในช่องหมายเลข 11 พร้อมรหัสไปรษณีย์ในบริเวณหมายเลข 13
11. ลงชื่อผู้ฝากเงิน ในช่องหมายเลข 12

ตัวอย่างหลักฐานใบรับเงิน

ให้ท่านเก็บใบรับเงินนี้ไว้เป็นหลักฐานจนกว่าผู้รับจะได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว
  หมายเหตุ การฝากส่งเงินธนาณัติออนไลน์ผู้ฝากส่งจะต้องแจ้งผู้รับให้ทราบเอง

ภาพลิงค์ที่แปะไว้ภาพลิงค์ที่แปะไว้
   


ภาพลิงค์ที่แปะไว้

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อาชีพในอนาคต


อาชีพในอนาคต

"  อาชีพผู้จัดการโลจิสติกต์ " 


ผู้จัดการโลจิสติกต์ คืออะไร
คือ ผู้ที่ทำหน้าที่อำนวยการวางแผน กำกับ ดูแล และบริหารจัดการ ทั้งวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งเกี่ยวโยงถึงสารสนเทศ การชำระเงิน จนถึงบริการต่างๆ ที่มีมาตั้งแต่ต้นกระบวนการผลิต จนถึงการบริหารงานขนส่งสินค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าตรงตามเวลาที่ต้องการ เป็นงานที่ต้องสร้างความสมดุลระหว่างความต้องการของหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการวัตถุดิบหรือสินค้ากับข้อจำกัดของพื้นที่และต้นทุนของสต็อก ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เปลี่ยนเป็นเงินได้ง่ายและมีมูลค่าสูง เสี่ยงต่อการสูญหาย ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยใช้บริการของบุคคลภายนอก มีอำนาจการดำเนินการเบิกจ่ายวัตถุดิบ/สินค้า อนุมัติใบผ่านสินค้าออกนอกโรงงาน การคัดเลือกผู้รับเหมาขนส่ง และทำสัญญากับผู้รับเหมาขนส่ง
(ที่มา: ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทย www.businessthaicenter.com)
ลักษณะการดำเนินงาน

ทำไมต้องโลจิสติกต์?
         ฉันเป็นผู้ที่มีความสนใจในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้าและส่งออก อีกทั้งยังมีความชอบในการศึกษาภาษาต่างประเทศ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 เมื่อทำการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพต่างๆ พบว่า การทำงานต่อในด้านโลจิสติกต์เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ตัวฉันในหลายด้าน

เหตุผลที่น่าสนใจในการประกอบอาชีพผู้จัดการโลจิสติกต์
         เนื่องจากธุรกิจการค้าในปัจจุบันนี้ต่างจำเป็นที่จะต้องมีผู้ที่ทำหน้าที่วางแผนและดูแลบริหารจัดการระบบตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึงการขนส่งสินค้า เพื่อที่จะทำให้สินค้าของธุรกิจนั้นเป็นที่ต้องการและพึงพอใจของลูกค้า ดังนั้นอาชีพ ผู้จัดการโลจิสติกต์ย่อมมีบทบาทสำคัญในการทำงานส่วนนี้ อีกทั้งผู้ที่ทำงานในสายนี้ จำเป็นต้องมีทักษะภาษาต่างประเทศ เพราะต้องทำการติดต่อกับลูกค้าหรือบริษัทอื่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติ ทำให้เราได้พัฒนาทักษะภาษาของตนเองอยู่เสมอ
        อีกทั้งอาชีพนี้ ยังเป็นความต้องการของตลาดอีกด้วย เนื่องจากประเทศไทยเราขาดบุคคลากรที่มีคุณภาพในสาขานี้อีกเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าขายระหว่างประเทศที่มีบทบาทมากขึ้น เห็นได้จากการที่จะมีการเปิดการค้าเสรีอาเซียน ซึ่งมีผลอย่างขัดเจนในด้านการค้าขายระหว่างประเทศ
        นอกจากนี้ อาชีพนี้ยังสามารถเติบโตไปได้เรื่อยๆ หากเรามีการพัฒนาตรเองอยู่ตลอดเวลา สั่งเสริมประสบกาณ์ความชำนาญ เราย่อมสารถก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้อย่างแน่นอน

หากสนใจ?
        ผู้ที่สนใจสามารถจบการศึกษาได้จากคณะที่มีสาขาการจัดการโลจิสติกต์ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง โดยมหาลัยส่วนใหญ่มีการเปิดรับนักศึกษาในสาขานี้แทบทุกมหาลัย


วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เที่ยวไทยให้สุดขีด ตอน หัวหิน

"กราบสวัสดี..
..เพื่อนๆชาวบล็อกทุกคนที่หลงเข้ามานะคะ"

ตอนนี้ทุกคนก็อยู่กับ.. บล็อกท่องเที่ยวไทยให้สุดขีด!!!
ท่องเที่ยวไทยอย่างมีสีสัน ฮาเฮ ครื้นเครง ตามสไตล์ฟ้าครึ้มนั่นเอง
ในครั้งนี้เราก็ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ใครไม่ได้ไปบอกได้อย่างเดียวว่า
"พลาดมากกก" เราจะพาไปกันแบบเบาๆ มุ่งตรงไปผ่อนคลายกันสวยๆ ปล่อยตัวปล่อยใจแถวทะเลกัน
ใครอยากรู้ ก็รีบตามมาชมกันเลย XD
(คำเตือน: อย่าเพิ่งรีบกดออก หากคุณยังดูไม่จบ ทางเราไม่รับประกันความเสียดายนะจ๊ะ)
------------------------------------------------------------

หัวหิน
29-30 March 2553



สถานที่ที่ไว้พักผ่อนหย่อนใจ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพของใครหลายคน คงจะหนีไม่พ้น 'หัวหิน' จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะมีทะเลและชายหาดที่สวยงาม เหมาะแก่การนอนทอดอารมณ์ในวันหยุดยิ่งนัก
ครั้งนี้ทางครอบครัวจึงเลือกมาที่หัวหินกันอีกครั้ง ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์เพียงแค่ 2-3 ชม. เท่านั้นก็ถึง โดยนอกจากจะเล่นน้ำทะเล ก่อกองทรายแล้ว เรายังพากันตะลอนทัวร์ในตัวเมืองด้วย


ที่แรก เราเลือกที่จะมาย้อนความทรงจำไปกับ เพลินวาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวจำลองอาคารแบบสมัยก่อน รวบรวมเอาร้านค้าโชว์ห่วย พิพิธภัณฑ์ของเก่า อาคารทรงโบราณ ที่เห็นแล้วทำให้เรานึกย้อนไปถึงสมัยเด็กๆ แม้ที่นี่จะเปิดมานานแล้ว (ตั้งแต่ปี 2552) แต่ก็ยังมีผู้คนแวะมาเยี่ยมเยียนอย่างคับคั่งอยู่เสมอ โดยส่วนใหญ่ผู้คนมักมาถ่ายรูป เก็บภาพสวยๆกันตามมุมต่างๆ รวมทั้งลองซื้อขนมและของเล่นที่ไม่ค่อยได้พบเห็นในปัจจุบันนี้แล้ว นอกจากนี้ในตอนเย็นยังมีการจัดกิจกรรมงานวัดอีกด้วย

ป้ายทางเข้า
ถึงหัวหินแล้ว!


ร้านค้าต่างๆในเพลินวาน
ถ่ายกับบรรยากาศรอบๆ
ทานน้ำแข็งไสคลายร้อน 






ทุกคนสามารถเดินทางมาเพลินวานซึ่งตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ด้านฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ระหว่างซอยหัวหิน 38 และ 40 เยื้องวังไกลกังวลได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 - 24.00 น. 














จากนั้นก็พากันกลับที่พัก ไปเล่นพักผ่อนเล่นน้ำทะเลที่ชายหาดสวยๆ
เอารูปหาดสวยๆยามบ่ายมาฝากกันด้วย


หาดตรงร้านอาหาร
หาดบริเวณที่พัก

วันกลับ เราเปลี่ยนมาเข้าวังกันบ้าง เนื่องจากเราผ่านจังหวัดเพชรบุรี จึงได้ไปแวะที่ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก ที่ตำบลห้วยเหนือ อำเภอ ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
เมื่อมาถึงบริเวณทางเข้าจะพบว่ามีจักรยานให้เช่าขี่ชมรอบๆด้วย เมื่อเราจะเข้าไปชมตัวพระราชวังด้านใน ต้องเสียค่าบัตรเข้าชมก่อนโดยผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก (อายุ 10-15 ปี) 15 บาท รายได้ร่วมทำนุบำรุงพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน นอกจากนี้ผู้หญิงที่สวมกางเกงขาสั้นเหนือเข่า จะต้องไปรับผ้าถุงผ้าสวมทับก่อนเข้าชมอีกด้วยเพื่อความเรียบร้อย (ทางเราก็โดนด้วยเช่นกัน ฮี่ๆ เป็นสาวชาววังกันสวยๆ)




พระราชนิเวศน์มฤคทายวันเป็นพระตำหนักที่ประทับริมทะเล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2466 ได้รับขนานนามว่า "พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง"





ลักษณะเป็นพระตำหนักไม้สองชั้น หันหน้าออกสู่ทะเล พระตำหนักฝ่ายในอยู่ปีกขวา ทางปีกซ้ายเป็นส่วนของฝ่ายหน้า ประกอบด้วยพระที่นั่งสามองค์เชื่อมต่อ ถึงกันโดยตลอด พระที่นั่งสุนทรพิมาน เป็นที่ประทับของพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรชายา พระที่นั่ง พิศาลสาครเป็นที่ประทับของพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นหมู่พระที่นั่งตรงกลางประกอบด้วยห้องต่าง ๆ สำหรับสำราญพระอิริยาบถ ห้องพักข้าราชบริพารที่คอยรับใช้ใกล้ชิด ห้องทรงพระอักษร และพระที่นั่ง สโมสรเสวกามาตย์ เป็นอาคารโถงสองชั้นเปิดโล่งใช้เป็นที่ประชุมในโอกาสต่าง ๆ และเป็นโรงละคร


ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ เช่น เครื่องแต่งกายในรัชสมัย ลักษณะห้อง เป็นต้น






 พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ถือเป็นพระราชวังที่มีความสวยงามอย่างมากแห่งหนึ่ง เนื่องจากตัวพระราชวังอยู่ริมทะเล มีทิวทัศน์งดงาม นอกจากนี้นังมีการออกแบบตัวอาคารและสวนอย่างสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาสามารถศึกษาหาความรู้ พร้อมกับเก็บภาพสวยๆได้ในคราวเดียว

หากใครต้องการแวะมาชมสถานที่นอกเหนือจากเที่ยวทะเล สถานที่อันสวยงามมีประวัติความเป็นมาซึ่่งน่าสนใจ เหมาะแก่การศึกษาหาความรู้ พระราชนิเวศน์มฤคทายวันถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ควรจะหาโอกาสมาสักครั้ง  โดยทุกคนสามารถมาชมได้ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น. ที่ค่ายพระรามหก อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี


---------------------------------------------

การท่องเที่ยวพักผ่อนคลายเครียด แบบสบายๆไม่ใกล้ไม่ไกลกรุงเทพก็เป็นอันสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ หวังว่าผู้อ่านจะได้ตัวเลือกต่อไปในการมาเที่ยวหัวหิน(หรือชะอำ) หากท่านต้องการย้อนวันวานยังหวานอยู่ก็ต้องไปเพลินวาน แต่ถ้าต้องการเข้าชมพระราชวังอันงดงามก็ต้อง พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
แล้วคุณละ อยากไปเที่ยวที่ไหน

ปล. อย่าลืม! ไม่ว่าจะไปไหน ถ้าเป็นเมืองไทย ต้องเที่ยวให้สุดขีดดด
สำหรับวันนี้เราต้องขอลาไปก่อน ไว้พบกันใหม่เมื่อใจเรียกร้อง ฮิ



ด้วยรักและหวังดี
ฟ้าครึ้ม 
ละอ่อนน้อยชานเมือง
:D