วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558

ข้อควรรู้ก่อนเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน



ข้อควรรู้! 
ก่อนออกเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน


     ตอนนี้ก็ใกล้เข้าสู่เวลาแห่งการเปิดประชาคมอาเซียนเข้ามาแล้ว และโอกาสที่เราจะสามารถไปท่องเที่ยวยังประเทศต่างๆในอาเซียนย่อมสะดวกมากขึ้น แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวยังประเทศต่างๆ เราควรที่จะทำความรู้จักและเรียนรู้ถึงข้อห้าม หรือการปฏิบัติตนที่ย่อมแตกต่างกันไปของแต่ละชาติก่อน เพื่อที่เราจะสามารถไปท่องเที่ยวและปฏิบัติตนได้อย่างสบายใจ


ประเทศเวียดนาม (Vietnam)
  1. หน่วยงานราชการ สำนักงาน และองค์กรให้บริการสาธารณสุข เปิดทำการระหว่างเวลา 08.00 น. ถึง 16.30 น. ตั้งแต่วันจันทร์ ศุกร์
  2. ผู้ถือพาสปอร์ตไทย สามารถเดินทางเข้าเวียดนามโดยได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และพำนักอยู่ในเวียดนามได้ไม่เกิน 30 วัน
  3. ชาวต่างชาติที่อยู่ในเวียดนาม ต้องพกพาสปอร์ตติดตัวตลอดเวลา และนักท่องเที่ยวควรถ่ายเอกสารหนังสือเดินทาง บัตรเครดิต และเอกสารสำคัญอื่นๆ ด้วย เพราะทางโรงแรมอาจขอสำเนาเอกสารเหล่านี้
  4. ทางประเทศเวียดนามไม่อนุญาตให้ทำการบันทึกภาพอาคารที่ทำการต่างๆ ของรัฐ
  5. หากนำเงินตราต่างประเทศติดตัวเข้ามามากกว่า 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องแจ้งให้ศุลกากรเวียดนามทราบ และการนำเงินตราออกประเทศมากกว่า 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งชาติหรือธนาคารกลางในท้องถิ่นก่อน มิเช่นนั้นจะถูกยึดเงิน
  6. บทลงโทษของเวียดนามในคดียาเสพติดการฉ้อโกงหน่วยงานของรัฐมีโทษประหารชีวิต
  7. ต้องเชิญผู้ใหญ่ก่อนรับประทานอาหาร
  8. ชาวเวียดนามจะไม่ถ่ายรูป 3 คน เพราะ เชื่อว่าจะทำให้เบื่อกัน แยกกัน หรือใครคนหนึ่งจะเสียชีวิต

ประเทศสิงคโปร์ (Singapore)

  1. หน่วยราชการเปิดทำการวันจันทร์ ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น.-13.00 น. และ 14.00 น. – 16.30 น. และวันเสาร์ เปิดทำการระหว่างเวลา 08.00 น. – 13.00 น.
  2. ห้ามพกหมากฝรั่งเข้าประเทศ
  3. เวลาขึ้นบันไดเลื่อนให้ชิดซ้าย
  4. ห้ามทิ้งขยะเรี่ยราด และห้ามเก็บผลไม้ในที่สาธารณะ
  5. ผู้ถือพาสปอร์ตไทยสามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราและสามารถพำนักอยู่ได้ 14 วัน การพำนักเกินระยะเวลาที่กำหนดถือว่าผิดกฎหมายมีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน เฆี่ยน 3 ที ปรับสูงสุด 6,000 ดอลลาร์สิงคโปร์และห้ามเข้าประเทศ
  6. การหลบหนีเข้าสิงคโปร์และประกอบอาชีพเร่ขายบริการผิดกฎหมาย จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
  7. การลักลอบนำยาเสพติด อาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ จะได้รับโทษอย่างรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิต

ประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines)

  1. การเข้าไปประกอบธุรกิจในฟิลิปปินส์ในลักษณะต่างๆ เช่น การลงทุนร่วมกับฝ่ายฟิลิปปินส์ จำเป็นจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด โดยเฉพาะในด้านกฎหมาย การจดทะเบียนภาษี และปัญหาทางด้านแรงงาน เป็นต้น
  2. การเท้าเอว หมายถึง ท้าทาย แต่การเลิกคิ้ว หมายถึง ทักทาย
  3. ใช้ปากชี้สิ่งของ
  4. การทานข้าวบ้านเพื่อนสามารถห่อกลับได้ แต่ควรมีของฝากให้เขาด้วย
  5. จะตกแต่งบ้าน 2 เดือน เพื่อเป็นการต้อนรับทศกาลคริสต์มาส


ประเทศเมียนมาร์ (Myanmar)

  1. วันที่ 20 ตุลาคม 2553 รัฐบาลพม่าประกาศเปลี่ยนธงชาติและตราประจำชาติอย่างเป็นทางการ แต่ยังใช้ชื่อเดิมคือ สหภาพพม่า(the Union of Myanmar) ส่วนชื่อประเทศใหม่ตามรัฐธรรมนูญ คือสาธารณรัฐสหภาพพม่า (the Republic of the Union of Myanmar)
  2. ไม่ควรพูดคุยเรื่องการเมืองกับบุคคลที่ไม่รู้จักหรือสนิท
  3. หากไปวัด เมื่อเข้าวัดต้องถอดรองเท้าและถุงเท้า
  4. ห้ามเหยียบเงาพระสงฆ์
  5. ให้นามบัตรต้องยื่นให้สองมือ
  6. ไม่ควรใส่กระโปรงสั้น กางเกงขาสั้น ในสถานที่สาธารณะและศาสนสถาน
  7. ผู้หญิงชอบทาทะนาคา(แป้งพม่า มีสีออกเหลือง) ส่วนผู้ชายชอบเคี้ยวหมาก


ประเทศมาเลเซีย (Malaysia)

  1. มาเลเซียมีปัญหาประชากรหลากหลายเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ในมาเลเซียประกอบด้วยชาวมาเลย์ กว่าร้อยละ 40 ที่เหลืออีกกว่าร้อยละ 33 เป็นชาวจีนร้อยละ10 เป็นชาวอินเดีย และ อีกร้อยละ 10 เป็นชนพื้นเมืองบนเกาะบอร์เนียว
  2.  ใช้มือขวาเพียงข้างเดียวในการรับประทานอาหาร และรับส่งของ
  3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องต้องห้าม
  4. ห้ามสัมผัสโดนศีรษะชาวมาเลเซียเด็ดขาด เพราะถือว่าไม่สุภาพ

ประเทศลาว (Laos)


  1. การบินลาว เป็นสายการบินเดียวในประเทศ มีสนามบินทั้งหมด 52 แห่ง มีเพียง 9 แห่งที่ลาดยาง
  2. คนไทยอ่านตัวหนังสือลาวได้ไม่ยากนักเพราะ ลาวใช้ตัวอักษรคล้ายกับไทย ส่วนคนลาวอ่านหนังสือไทยได้คล่องมาก
  3. ลาวขับรถทางขวา
  4. ธนาคารไทยในลาวมี 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทยธนาคารไทยพาณิชย์  และธนาคารทหารไทย 
  5. ติดต่อราชการต้องนุ่งผ้าซิ่น
  6. เวลาเดินผ่านผู้ใหญ่ ต้องก้มหัว
  7. ถ้าเพื่อนคนลาวเชิญไปพักที่บ้าน ห้ามให้เงิน
  8. เข้าบ้านต้องถอดรองเท้า และถ้าเขาเสิร์ฟน้ำต้องดื่ม
  9. อย่าซื้อน้ำหอมให้กัน

ประเทศอินโดนีเซีย (Indonesia)

  1. ไม่ควรใช้มือซ้ายในการรับ-ส่งของ คนมุสลิมอินโดนีเซียถือว่ามือซ้ายไม่สุภาพ
  2. ไม่ควรใช้นิ้วชี้ในการชี้สิ่งของ ควรใช้นิ้วโป้งแทน
  3. นิยมใช้มือในการกินข้าว
  4. ไม่ควรจับศีรษะคนอินโดนีเซียรวมทั้งการลูบศีรษะเด็ก
  5. รถจักรยานยนต์รับจ้างมีมิเตอร์ค่าโดยสาร
  6. เวลาไปงานศพใส่ชุดสีอะไรก็ได้
  7. การครอบครองยาเสพติด อาวุธ หนังสือรูปภาพอนาจาร มีบทลงโทษหนัก อาทิ การนำเข้าและครอบครองยาเสพติดมีโทษถึงประหารชีวิต
  8. บทลงโทษรุนแรงเกี่ยวกับการค้าและส่งออกพืชและสัตว์กว่า 200 ชนิด จึงควรตรวจสอบก่อนซื้อหรือนำพืชและสัตว์ออกนอกประเทศ
ประเทศกัมพูชา (Cambodia)

  1. ผู้ถือพาสปอร์ตไทย สามารถขอตรวจลงตราเข้ากัมพูชาได้จากสถานฑูตกัมพูชาในไทย โดยเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท หรือขอตรวจลงตรานักท่องเที่ยว หรือผู้เดินทางผ่านได้เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงพนมเปญ โดยกรอกแบบฟอร์ม Visa on Arrival พร้อมยื่นรูปถ่ายและค่าธรรมเนียม 20 ดอลลาร์สหรัฐ
  2. ผู้หญิงห้ามแต่งตัวเปิดเผย ควรแต่งกายสุภาพ หากผู้ชายไว้ผมยาวจะมีภาพลักษณ์เป็นนักเลง
  3. ผู้ที่เดินทางเข้ากัมพูชา และประสงค์จะอยู่ทำธุรกิจเป็นระยะเวลาเกิน 3 เดือน ควรฉีดยาป้องกันโรคไทฟอยด์ และไวรัสตับอักเสบเอและบี
  4. เพื่อนผู้ชายจับมือกัน ถือเป็นเรื่องปกติ
  5. การสบตามากเกินไป ถือว่าไม่ให้เกียรติ
  6. ห้ามจับศีรษะ เพราะ คนกัมพูชาถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของร่างกาย

ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม (Brunei Darussalam)


  1. คนในกลุ่มประเทศอาเซียนสามารถทำวีซ่าที่ ตม.ที่ประเทศบรูไน สามารถอยู่ได้นาน 2 สัปดาห์
  2. ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลือง เพราะถือเป็นสีของพระมหากษัตริย์
  3. วันหยุดคือวันศุกร์และวันอาทิตย์ และวันศุกร์เวลา 12.00-14.00 น.ทุกร้านจะปิด
  4. การทักทายจะทำโดยการจับมือกันเบาๆ และสตรีจะไม่ยื่นมือให้บุรุษจับ
  5. สตรีเวลานั่งจะไม่ให้เท้าชี้ไปทางผู้ชายและไม่ส่งเสียงหรือหัวเราะดัง
  6. จะไม่ใช้มือซ้ายในการส่งของให้ผู้อื่น
  7. การใช้นิ้วชี้ชี้คนสิ่งของถือว่าไม่สุภาพ ให้ใช้หัวแม่มือชี้แทน


     เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว หากจะไปท่องเที่ยวที่ประเทศไหน ก็อย่าลืมข้อปฏิบัติเหล่านี้ก่อน เพื่อที่เวลาไปประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนเหล่านี้ เราจะได้ท่องเที่ยวกันอย่างถูกต้องและสนุกสนาน

ขอบคุณที่มาจาก https;//www.thai-aec.com และ http://travel.truelife.com/






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น